คู่มือเลือก “ยาคุมรักษาสิว” ฉบับเข้าใจง่าย

สิวฮอร์โมนเป็นปัญหาผิวที่กวนใจใครหลายคน ไม่ว่าจะดูแลความสะอาดดีแค่ไหน สิวก็ยังคงขึ้นซ้ำๆ โดยเฉพาะบริเวณคาง กราม และรอบปาก สิวเหล่านี้เกิดจากฮอร์โมนเพศชาย แอนโดรเจน กระตุ้นต่อมไขมันให้ผลิตน้ำมันมาก → อุดตัน → สิวอักเสบ

ยาคุมกำเนิดลดสิวได้อย่างไร?

สาเหตุหลักของ "สิวฮอร์โมน" มาจากฮอร์โมนเพศชายที่ชื่อว่า แอนโดรเจน (Androgen) ซึ่งฮอร์โมนนี้จะไปกระตุ้นให้ต่อมไขมันผลิตน้ำมันออกมามากเกินไป จนทำให้เกิดการอุดตัน และกลายเป็นสิวอักเสบ

ยาคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนรวม (Combined Oral Contraceptives - COCs) จะเข้ามาช่วยแก้ปัญหานี้ผ่าน 2 กลไกหลัก คือ

  1. ฮอร์โมนเอสโตรเจน (Estrogen) เพิ่มโปรตีน “จับ” ฮอร์โมนเพศชาย ไม่ให้มาก่อกวนต่อมไขมัน
  2. ฮอร์โมนโปรเจสติน (Progestin) ต้านฮอร์โมนเพศชายโดยตรง

ดังนั้น การเลือกยาคุมเพื่อลดสิว จึงต้องเลือกยาคุมชนิดฮอร์โมนรวมที่ใช้ โปรเจสตินที่มีฤทธิ์ต้านแอนโดรเจนสูง หรือมีฤทธิ์แอนโดรเจนต่ำ

เราควรเลือกทานยาคมุกลุ่มไหนดี?

1. ต้านฮอร์โมนเพศชายโดยตรง (Anti-Androgen)

เหมาะกับสิวปานกลาง–รุนแรง, หน้ามัน, มีขนดก

  • Drospirenone → Yasmin®, Yaz®, Melodia®
  • Cyproterone Acetate → Diane-35®, Sucee®, Preme®

2. ฮอร์โมนเพศชายต่ำ (Low Androgen)

เหมาะกับสิวเล็กน้อย–ปานกลาง, มือใหม่ใช้ยาคุม

  • Desogestrel → Mercilon®, Marvelon®
  • Gestodene → Minidoz®, Gynera®

ข้อควรรู้เพิ่มเติม 

  • เริ่มเห็นผลชัดใน 2–3 เดือน
  • หลีกเลี่ยงถ้ามีประวัติลิ่มเลือดอุดตัน, อายุ 35+ และสูบบุหรี่, โรคตับ, มะเร็งเต้านม
  • ควรปรึกษาแพทย์/เภสัชกรก่อนเสมอ เพื่อซักประวัติ ประเมินความเสี่ยง และเลือกยาคุมยี่ห้อที่เหมาะสมกับปัญหาสิว

ยาคุมตัวไหนเหมาะกับใครรออ่านบทความหน้ากันน้าา 💙

ปรึกษาเภสัชกรฟรี!
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม คลิก https://lin.ee/7qK8RWq หรือ แอดไลน์ : @blezonline

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

CAPTCHA


This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.